เวลาดูซีรีส์ใน Netflix หรือชมคลิปใน YouTube คุณเคยเจอซับไตเติ้ลแปลก ๆ บ้างไหม? ปัญหาเหล่านี้มักเกิดจากการแปลซับไตเติ้ลโดยไม่ได้ปฏิบัติตามหลักการและข้อควรระวังสำหรับการแปลซับไตเติ้ล
ต่อไปนี้ เราจะแนะนำหลักการและข้อควรระวังในการแปลซับไตเติ้ลโดยคร่าว ๆ ซึ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถช่วยให้ผู้อ่านได้รับผลงานแปลซับไตเติ้ลที่น่าพึงพอใจและเห็นความสำคัญต่อคุณภาพงานแปลได้มากขึ้น

 

การแปลซับไตเติ้ลคืออะไร?

字幕翻訳とは

การแปลซับไตเติ้ลเป็นหนึ่งวิธีสำหรับการแปลข้อมูลภาพเคลื่อนไหว พูดอย่างเป็นรูปธรรมก็คือ รักษาเสียงเดิมและภาพเดิมในข้อมูลไว้ และแสดงเนื้อหาที่แปลออกมาเป็นภาษาอื่น ๆ บนหน้าจอ
นอกจากวิธีการแปลในรูปแบบซับไตเติ้ลแล้ว วิธีการแปลข้อมูลภาพเคลื่อนไหวยังมีอีก 2 ประเภทด้วยกัน ซึ่งเราขอแนะนำเพื่อเป็นข้อมูลเบื้องต้น
1. การแปลโดยพากย์เสียง คือการลบเสียงที่บันทึกไว้ทั้งหมดให้ดูเหมือนว่าคนในหน้าจอกำลังพูดภาษาที่แปลออกมา ซึ่งวิธีพากย์เสียงส่วนใหญ่จะใช้กับการแปลภาพยนตร์หรือการสัมภาษณ์
2. การลงเสียงบรรยาย (Voiceover) เป็นการลดระดับเสียงที่ประกอบในภาพเดิม และใส่เสียงที่กำลังแปลเนื้อหาเข้าไปเพิ่มเติม ซึ่งรูปแบบนี้มักจะเห็นบ่อยในข่าวหรือภาพยนตร์สารคดี

ตอนนี้กลับมาที่หัวข้อการแปลซับไตเติ้ลอีกครั้ง เป้าหมายในการแปลซับไตเติ้ลก็เพื่อขยายตลาดไปทั่วโลกโดยการเผยแพร่ข้อมูลภาพเคลื่อนไหวสู่สังคมสากล เพราะฉะนั้น เพื่อให้ผู้รับชมเข้าใจและรับรู้ถึงเนื้อหาอย่างง่าย ๆ คุณภาพการแปลซับไตเติ้ลจึงสำคัญอย่างยิ่ง

 

หลักการสำหรับการแปลซับไตเติ้ล

字幕翻訳のルール

ผู้ที่เคยเห็นซับไตเติ้ลอัตโนมัติ จากการใช้ฟีเจอร์เสริมบน YouTube คงทราบดีว่า บ่อยครั้งซับไตเติ้ลก็ยาวเกินควร หรือโผล่มาในจังหวะที่แปลกประหลาด สิ่งเหล่านี้เป็นข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากการแปลซับไตเติ้ลโดยไม่ได้ปฏิบัติตามหลักการ
ซับไตเติ้ลจะแสดงบนหน้าจอเพียงชั่วคราวด้วยเวลาสั้น ๆ และไม่เหมือนหนังสือที่สามารถกลับมาอ่านซ้ำ ๆ ได้ เพราะฉะนั้นจะต้องใส่ใจเรื่องการแปลเป็นพิเศษ เพื่อให้ผู้ชมเห็นแล้วสามารถเข้าใจได้ทันที ต่อไปนี้ ขอแนะนำหลักการที่ควรปฏิบัติในขณะทำงานแปลซับไตเติ้ล ดังนี้

 

หลักการที่ 1 จำกัดความยาวข้อความและเวลา

 

• ไม่ควรแสดงอักษรเกิน 4 ตัวใน 1 วินาที (เป็นความเร็วการอ่านโดยเฉลี่ยสำหรับบุคคลทั่วไป)
• จำนวนคำต่อบรรทัด (ความยาวบรรทัด) ต้องไม่เกิน 13 ตัวอักษร (สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามภาษาที่แปล)
จุดสำคัญ: เปิดดูอีกครั้งและตรวจสอบว่าสามารถอ่านซับไตเติ้ลที่แสดงบนหน้าจอได้ทันอย่างสบาย ๆ หรือไม่

 

หลักการที่ 2 ใส่ใจรูปแบบในการแสดงซับไตเติ้ล (เน้นย้ำความกระชับเรียบง่ายและเป็นกลาง)

 

• ตามหลักการแล้ว งานแปลต้องสื่อความหมายออกมาได้และจำเป็นต้องเว้นวรรคโดย “ละเว้นการใช้เครื่องหมายวรรคตอน”
• ตัดบทพูดที่ไม่สำคัญ คำอุทาน คำนามที่ยาวเกินไปและไม่ได้สำคัญออก
• ตัดสรรพนามชี้เฉพาะ เช่น “นี่” หรือ “นั่น” ออก
• ส่วนที่สามารถเข้าใจได้จากภาพเคลื่อนไหวไม่จำเป็นต้องอธิบายเป็นพิเศษ
*เช่น ช่วงถามตอบในสัมมนา เมื่อพิธีกรพูดว่า “ผู้ฟังแถวที่ 3 ซึ่งใส่เสื้อสีแดงเชิญถามคำถามได้เลยครับ” โดยภาพบนจอแสดงผู้ถามคำถาม เราสามารถแสดงซับไตเติ้ลในส่วนเฉพาะ “เชิญถามคำถามได้เลยครับ” ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว
จุดสำคัญ: ตรวจทานซับไตเติ้ลอีกครั้งว่ามีคำพวก “นี่ และ นั่น (สรรพนามชี้เฉพาะหรือคำกริยาวิเศษณ์ที่ไม่จำเป็น)” หรือคำลงท้ายที่ไม่มีความหมายอยู่หรือไม่
การแปลซับไตเติ้ลที่มีคุณภาพสูงจะต้องปฏิบัติตามหลักการดังกล่าว แต่การแปลด้วยเครื่องมือช่วยแปลไม่สามารถทำงานได้ละเอียดถึงระดับนี้
เพื่อรักษาความน่าเชื่อถือของบริษัทและอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า จึงแนะนำให้ใช้บริการแปลซับไตเติ้ลโดยผู้เชี่ยวชาญในงานที่มีความสำคัญ

 

ขั้นตอนการแปลซับไตเติ้ล

Google評価

บางท่านอาจยังคงคิดว่าการแปลซับไตเติ้ลโดยผู้เชี่ยวชาญนั้นมีต้นทุนสูงเกินไป แล้วการจ้างมืออาชีพมีข้อดีอย่างไร? แตกต่างจากการแปลด้วยเครื่องมือช่วยแปลหรือไม่? ต่อไปนี้ ขอแนะนำขั้นตอนการทำงานในบริษัทแปลซับไตเติ้ลมืออาชีพ เพื่อชี้แจงข้อสงสัยดังนี้

5 ขั้นตอนสำหรับการแปลซับไตเติ้ล

 

1. จัดทำบทความถอดเทปโดยผู้เชี่ยวชาญ
2. ตรวจทานเนื้อหา
3. ดำเนินการแปลเนื้อหา
4. ตรวจทานเนื้อหาการแปลโดยผู้เชี่ยวชาญ
5. ปรับความยาวของซับไตเติ้ลและเวลาที่แสดง

การแปลซับไตเติ้ลที่ดำเนินการโดยผู้เชี่ยวชาญ ก่อนอื่นจะเริ่มจากบทถอดเทปที่ถูกต้อง ไปจนถึงการปรับความยาวซับไตเติ้ล ซึ่งต้องให้เนื้อหาการแปลสมบูรณ์ในทุกด้าน จึงสามารถส่งงานให้กับลูกค้าได้
ถึงแม้ในปัจจุบันการแปลซับไตเติ้ลด้วยเครื่องมือช่วยแปลสามารถแปลออกมาได้เหมือน 70%-80% ของนักแปลจริง แต่หากต้องการสื่อสารเนื้อหาข้อมูลภาพเคลื่อนไหวออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ ยังคงต้องมอบหน้าที่ให้กับบริษัทแปลซับไตเติ้ลซึ่งเป็นมืออาชีพเพื่อจัดการ หรือทำการตรวจทานและขัดเกลาอีกครั้ง

 

ข้อควรระวังในการใช้บริการแปลซับไตเติ้ลโดยบริษัทแปล

字幕翻訳を翻訳会社に依頼するときの注意点

ต่อไปนี้ ขอแนะนำข้อควรระวังในการใช้บริการแปลซับไตเติ้ลรวม 2 ประเด็นด้วยกัน
ทั้งนี้ คุณสามารถอ่านบทความตามลิงก์เพื่อเป็นข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อควรระวังในการใช้บริการจากบริษัทแปล
บทความที่เกี่ยวข้อง: ไม่เกิดความผิดพลาดเนื่องจากการแปลภาษาอีกต่อไป ! 7 ประเด็นสำคัญเมื่อใช้บริการแปลภาษา

 

1. จัดเตรียมไฟล์ข้อมูลภาพที่มีความคมชัดสูง

 

ระดับความคมชัดของภาพเคลื่อนไหวที่ต้องการอาจแตกต่างออกไปตามอุปกรณ์ฉายภาพ จึงแนะนำให้สร้างไฟล์ต้นฉบับด้วยความคมชัดสูง

หากความคมชัดของไฟล์ต้นฉบับไม่สูงมากอยู่แล้ว ถึงแม้เวลาเข้าชมในเว็บไซต์ทางการหรือในโทรศัพท์มือถือจะไม่มีปัญหามากนัก แต่เมื่อต้องฉายภาพผ่านหน้าจอใหญ่ในงานมหกรรมต่าง ๆ อาจจะทำให้เกิดปัญหาตัวหนังสือซับไตเติ้ลเบลอ หรืออ่านยากเพราะมองไม่ชัด

2. ไฟล์ภาพที่มีซับไตเติ้ลอยู่แล้ว

 

หากต้องการทำการแปลบนไฟล์ภาพที่มีซับไตเติ้ลอยู่แล้ว สามารถแสดงซับไตเติ้ลใหม่โดยทับบนซับไตเติ้ลเก่า หรือแสดงเนื้อหาของภาพที่แปลออกมาพร้อมกันโดยวางไว้ด้านล่างซับไตเติ้ลเดิม
หากเป็นรูปแบบไฟล์ที่แก้ไขข้อมูลได้ จะสามารถดึงไฟล์ซับไตเติ้ลออกมาด้วยโปรแกรมเครื่องมือต่าง ๆ แล้วมอบหมายให้นักแปลดำเนินการต่อ จากนั้นแปลงและรวมไฟล์ข้อมูลอีกครั้งเพื่อจัดทำเป็นรูปแบบไฟล์สำหรับฉายภาพโดยเฉพาะ

• ตัวอย่างรูปแบบไฟล์ที่แก้ไขข้อมูลได้คือ MKV เป็นต้น
• ตัวอย่างรูปแบบไฟล์ที่ไม่สามารถแก้ไขซับไตเติ้ลหรือฉายภาพได้คือ MP4 เป็นต้น

 

บริการแปลซับไตเติ้ลโดย PTSGI

Google評価

หลายปีที่ผ่านมา การพัฒนาเทคโนโลยีการแปลด้วยเครื่องมือช่วยแปลทำให้ทุกคนสามารถทำซับไตเติ้ลขึ้นมาได้อย่างง่ายดายแต่เมื่อจัดทำซับไตเติ้ลโดยการแปลด้วยเครื่องมือช่วยแปลออกมา แน่นอนว่ายังต้องอาศัยนักแปลเพื่อทำการแก้ไขในส่วนที่แปลผิด ลบคำที่ไม่จำเป็นออก ปรับปรุงเนื้อหาให้อ่านง่าย หรือปรับปรุงการแบ่งวรรคตอน ซึ่งการแปลด้วยเครื่องมือช่วยแปลอาจลดค่าใช้จ่ายได้มาก แต่ถ้านำไปใช้ในกิจกรรมอย่างเป็นทางการ คุณภาพของงานแปลดังกล่าวอาจทำให้บริษัทต้องเผชิญกับความเสี่ยงที่สูงมาก ซึ่งการแปลโดยพนักงานในบริษัทหรือนักแปลที่ไม่เป็นมืออาชีพ อาจมีความเสี่ยงที่จะทำให้ข้อมูลภาพเคลื่อนไหวมีคุณภาพที่ลดลง
หากคุณกำลังตามหาบริการแปลซับไตเติ้ลที่มีคุณภาพสูง กรุณาติดต่อ PTSGI เพื่อที่เราจะช่วยคุณจัดทำซับไตเติ้ลที่มีคุณภาพสูงโดยไม่ต้องเผชิญกับความเสี่ยงในภายหลัง

Google評価

PTSGI เป็นบริษัทแปลที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียซึ่งมีประสบการณ์มากกว่า 50 ปี จนถึงปัจจุบัน ได้ให้บริการแปลซับไตเติ้ลกับ NETFLIX, L’Oreal, Benz และบริษัทชั้นนำระดับสากลอีกหลายแห่ง ต่อไปนี้ ขอแนะนำจุดเด่นของ PTSGI ในการดำเนินงานแปลซับไตเติ้ล

1. จัดทำบทถอดเทปโดยเจ้าของภาษา

 

• จัดทำบทถอดเทปที่ถูกต้องโดยผู้เชี่ยวชาญที่เป็นเจ้าของภาษา
• ใส่เวลา (time code) ในบทถอดเทปก่อนเริ่มทำการแปล

2. สนับสนุนบริการทุกอย่างที่ลูกค้าต้องการ

 

• เริ่มตั้งแต่อัดภาพ, อัดเสียง, จัดทำบทถอดเทป จนถึงงานแปล เราสามารถให้บริการครบวงจรในที่เดียว
• สนับสนุนการจัดทำไฟล์มัลติมีเดียอย่างหลากหลายสำหรับแนะนำบริษัท, แนะนำผลิตภัณฑ์ หรือแนะนำกิจกรรมการตลาด เป็นต้น
• สนับสนุนการแปล 140 ภาษา โดยมีนักแปลมากกว่า 10,000 คนทั่วโลก ซึ่งเราพร้อมที่จะให้บริการ ไม่ว่าคุณต้องการแปลเป็นภาษาเดียวหรือหลายภาษา

PTSGI ผ่านการรับรองงานแปลมาตรฐานสากล ISO 17100 และ ISO 9001 อีกทั้งยังได้สร้างกระบวนการทำงานมาตรฐาน TDQCMP® คุณจึงมั่นใจได้ว่าจะได้รับบริการและผลงานการแปลที่ดีเยี่ยม

หากบริษัทของคุณกำลังสรรหาผู้ให้บริการงานแปลที่มีคุณภาพสูง โปรดติดต่อเราผ่านแบบประเมินราคาออนไลน์ นอกจากนี้ เรายังให้บริการทดลองแปลฟรี 300 คำ เพื่อสร้างความมั่นใจต่อคุณภาพงานแปลให้ลูกค้าก่อนจ้างงาน เราขอเชิญทุกท่านมาลองใช้บริการทดลองแปลของเรา